น่าน-มิวนิค “วิวาลดี้” บริษัทพีอาร์ ปฏิเสธผลิตเนื้อหาดราม่าดังกล่าวให้ ไทยเวียตเจ็ท รับทำเฉพาะข่าวประชาสัมพันธ์ ใส่ความ แชร์ข้อความใด ๆ ทำเข้าใจผิด หรือเสียหายต่อบริษัท ฟ้องร้องให้ถึงที่สุดวิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์ แถลงชี้แจง รับทำเฉพาะข่าวประชาสัมพันธ์ไทยเวียตเจ็ท ให้สื่อมวลชนโดยตรงเท่านั้น ไม่ได้เป็นผู้ผลิตเนื้อหา “น่าน-มิวนิค” ให้สายการบิน ชี้ฟ้องผู้หมิ่นประมาท ใส่ความ หรือแชร์ข้อความใด ๆ ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด หรือเสียหายต่อบริษัท อย่างถึงที่สุด
กรณีก่อนหน้านี้ ‘ไทยเวียตเจ็ท’ สั่งพักงานพนักงานที่เกี่ยวข้อง และ ศชอ.
ระบุ ฝ่ายบริหารทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษไปทางสำนักพระราชวังแล้ว เกี่ยวกับการผลิตเนื้อหา เปิดบิน “น่าน-มิวนิค” เริ่มต้น 1,010 บาท ในวัน April Fool’s Day หรือ เมื่อวันที่ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา
วิวาลดี้ ระบุ รายละเอียดข้อความในหนังสือชี้แจงเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา ทั้งหมด ดังนี้
สืบเนื่องจากกรณีการเผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ทางบัญชีทวิตเตอร์ของสายการบิน เวียตเจ็ท ซึ่งก่อให้เกิดการแสดงความคิดเห็น วิวาลดี้ อินทิเกรเต็ด พับลิค รีเลชั่นส์ ในฐานะผู้ให้บริการประชาสัมพันธ์แก่สายการบินฯ
วิวาลดี้ ขอเรียนชี้แจงว่า บริษัทฯ ไม่ได้เป็นผู้ผลิตเนื้อหาทวิตเตอร์ดังกล่าวของสายการบินฯ เนื่องจากขอบเขตการทำงานของบริษัทฯ ตามสัญญาจ้างรับผิดชอบเฉพาะการส่งต่อข่าวประชาสัมพันธ์ให้แก่สื่อมวลชนโดยตรงเท่านั้น และไม่ได้ครอบคลุมถึงการผลิตเนื้อหาสำหรับเผยแพร่ออนไลน์แต่อย่างใด ดังนั้น บริษัทฯ จึงไม่มีส่วนรู้เห็นหรือเกี่ยวข้องใดๆ ทั้งสิ้น กับการเผยแพร่เนื้อหาทวิตเตอร์ของสายการบินในครั้งนี้ ทั้งนี้บริษัทฯ น้อมรับการติชมหรือวิพากษ์วิจารณ์การดำเนินงานตามข้อเท็จจริงในทางสุจริตอยู่เสมอ
อย่างไรก็ตาม ในขณะนี้บริษัทฯ พบว่ามีผู้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับบริษัทฯ และมีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นต่อโพสต์ดังกล่าวซึ่งมีลักษณะหมิ่นประมาท ส่งผลให้บริษัทฯ ได้รับความเสียหายต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์อันดีขององค์กร บริษัทฯ จึงขอประกาศให้ทราบว่า บริษัทฯ มีความจำเป็นต้องดำเนินการทางกฎหมายอย่างถึงที่สุด โดยจะไม่มีการประนีประนอมยอมความใดๆ ทั้งสิ้น ต่อบุคคลผู้โพสหรือแชร์ข้อความใดๆ ที่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิดหรือทำความเสียหายต่อบริษัทฯ
กพท. เตรียมเรียก เวียตเจ็ท ชี้แจงมุก April’s Fool Day หลังทางสายการบินเล่นมุกเที่ยวบิน น่านไปมิวนิค ราคา 1,010 บาท สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย หรือ กพท. ได้ออกมาขอให้ทางสายการบิน เวียตเจ็ท ตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและชี้แจงต่อ กพท. ในวันที่ 4 เม.ย นี้ จากกรณีที่เล่นมุกในวันเมษาโกหก หรือ April Fool’s Day เมื่อวันที่ 1 เมษายน
ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ทางสายกายบินได้โพสต์โปรโมตเที่ยวบิน ‘น่านไปมิวนิค’ ในราคา 1,010 บาท พร้อมติดแฮชแท็ค April Fool’s Day ทั้งนี้ชาวเน็ตบางส่วนได้ออกมาวิจารณ์ถึงความเหมาะสม จนทำให้ทางสายการบินลบออกไป
โดยเบื้องต้นทางการสายการบินชี้แจงว่า “ฝ่ายบริหารของสายการบินมิได้ให้ความเห็นชอบ หรือมีนโยบายสนับสนุนให้เผยแพร่เนื้อหาออนไลน์ในลักษณะดังกล่าว โดยสั่งการให้ลบโพสต์ทันที พร้อมไล่ออกบุคคลที่มีส่วนรับผิดชอบสื่อสังคมออนไลน์ของสายการบินจนกว่าการตรวจสอบจะแล้วเสร็จ”
รู้จัก Polar Vortex คืออะไร ปรากฎการณ์ขั้วโลก ทำไทย ‘หนาวเดือนเมษา’ ส่งผลกระทบภาวะโลกร้อน อันตรายกว่าที่คุณคิด
หลาย ๆ คนอาจรู้สึกดีกับการที่สภาพอากาศเย็นตัวลง ทำให้เมืองร้อนอย่างประเทศไทย มีอากาศที่เย็นสบายขึ้น แต่ทว่าสิ่งที่เกิดขึ้นนี้เรียกว่า ‘ปรากฏการณ์ Polar Vortex’ โดย ไออุ่นนอกพื้นที่เบียดรุกเข้าสู่แดนขั้วโลก ทำให้ลมหมุนถูกเบี่ยงเบน ไอเย็นก็ขยายออกตามลงมา สู่เส้นศูนย์สูตรเป็นจุด ๆ ส่งผลกระทบไปทั่วโลก และแท้จริงแล้วอาจร้ายแรงกว่าที่คิด
โพลาร์ วอร์เท็กซ์ (Polar Vortex) หรือ กระแสน้ำวนขั้วโลก คือ กระแสน้ำวนบริเวณขั้วโลก มีไว้เพื่อเก็บรักษาลมเย็นไว้ที่ภูมิภาคขั้วโลกเหนือ ซึ่งจะสร้างเกราะเส้นกันรอบขั้วโลกเหนือเพื่อไม่ให้ความร้อนจากพื้นที่อื่น ๆ ของโลกเข้ามา กักเก็บความเย็นไว้ แต่ถ้าเกิดเหตุต่าง ๆ ที่ทำให้กระแสนี้เปลี่ยนทิศทาง จะส่งผลให้อุณหภูมิของขั้วโลกสูงขึ้น และลมเย็นจะพัดไปในพื้นที่อื่นของโลกนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม ปรากฏการณ์ โพลาร์ วอร์เท็กซ์ แปรปรวนนั้น อันตรายกว่าที่คิด เมื่ออุณภูมิจากขั้วโลกสูงขึ้น ส่งผลกระทบให้น้ำแข็งละลาย เป็นสัญญาณเตือนครั้งสำคัญของ ‘ภาวะโลกร้อน (Global Warming)‘ ซึ่งนอกจากจะทำลายระบบนิเวศน์ส่งผลให้สัตว์ที่อาศัยในบริเวณขั้วโลกใช้ชีวิตอย่างยากลำบากมากขึ้นแล้ว ยังส่งผลให้ระดับของน้ำทะเลสูงขึ้นจากการละลายของน้ำแข็งอีกด้วย
ปรากฏการณ์ Polar Vortex อันตรายอย่างไร ? ถึงแม้ว่าในประเทศไทยจะได้รับผลกระทบจาก โพลาร์ วอร์เท็กซ์ เพียงแค่มีอุณภูมิลดลงเฉลี่ย 2-4 องศาเซลเซียสเท่านั้น แต่ยังมีอีกหลายพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรง และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่โลกต้องเผชิญกับปรากฏการณ์นี้ โดยมันเคยเกิดขึ้นครั้งแรกในปี 2396 หรือ 166 ปีก่อน และเกิดบ่อยขึ้นในช่วงทศวรรศที่ผ่านมา
ย้อนกลับไปในปี 2014 สหรัฐอเมริกา ทางตะวันตกตอนกลางของประเทศเช่น มิชิแกน อิลลินอยส์ และเนบราสกา ต้องพบเจอกับสภาพอากาศแปรปรวนครั้งใหญ่ ซึ่งส่งผลให้อุณหภูมิติดลบสูงสุดถึง -37 องศาเซลเซียส รวมถึงพื้นที่น้ำตกที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง ‘ไนแอการ่า’ มีอุณหภูมิต่ำถึง -16 องศาเซลเซียส จนทำให้น้ำตกจับตัวกลายเป็นน้ำแข็งเลยทีเดียว