เด็กประถม ไต้หวัน ถูกฟ้อง หลัง ‘เตะผ่าหมาก’ จนคู่กรณีจิตตก

เด็กประถม ไต้หวัน ถูกฟ้อง หลัง ‘เตะผ่าหมาก’ จนคู่กรณีจิตตก

เด็กประถม ชายรายหนึ่งจากไต้หวัน ได้เจอกับปัญหาใหญ่ก็ว่าได้ หลังจากที่ดันไป เตะผ่าหมาก ใส่เด็กอีกคนเข้าให้ จนเด็กคนที่ว่าจิตตก และผู้ปกครองก็ดำเนินเรื่องฟ้องจนเกือบเสียเงินไปหลายแสน(2 ส.ค. 2565) งานเข้าก็ว่าได้กับ เด็กประถม ชายคนหนึ่งจากไต้หวัน ที่ดันไป เตะผ่าหมาก หรือการเตะเข้าบริเวณระหว่างขา ใกล้กับอวัยวะเพศชายของเด็กชายคนในพื้นที่เดียวกัน จนเด็กชายที่โดนเตะนั้นได้รับผลกระทบทั้งทางร่างกาย และจิตใจ จนเรื่องนั้นถึงขั้นขึ้นโรงขึ้นศาล และก็ต้องเสียเงินกันไป

ตามการรายงานของ Apple Daily นั้น เหตุการณ์ดังกล่าวได้เกิดขึ้นบริเวณสนามเด็กเล่น 

ในพื้นที่เถาหยวน ไต้หวัน โดยเด็กชาย A ได้ทำการเตะไปยังบริเวณระหว่างขา ใกล้กับอวัยวะเพศของเด็กชาย B โดยเกิดขึ้นในระหว่างที่มีเด็กอีกหลาย ๆ คนร่วมเหตุการณ์อยู่ด้วย เมื่อ B กลับไปถึงบ้านแล้วนั้น เขาก็ได้แจ้งแก่ผู้ปกครอง และแสดงร่องรอยที่พบว่ามีอาการแดง และบวมตรงขาหนีบ อีกทั้ง B ก็ได้แสดงอาการซึมเศร้า, วิตกกังวล ทางผู้ปกครองจึงได้พาตัวไปหาหมอเพื่อตรวจสอบทั้งทางด้านร่างกาย และจิตใจ ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการฟ้องร้องเรียกค่าเสียหาย

จากการตรวจสอบ B ได้รับผลกระทบทางจิตใจมากที่สุด โดยเป็นผลมาจากความอับอายที่ถูกเตะกลางสาธารณะ ที่ก็ทำให้เกิดความผิดปกติในการปรับอารมณ์ และการตอบสนองต่อความเครียดเฉียบพลัน ซึ่งก็ส่งผลให้เขาฝันร้ายอยู่บ่อยครั้ง และต้องพึ่งพายาในการแก้ไขความผิดปกติในการนอน รวมถึงสภาวะซึมเศร้าด้วยเช่นกัน

ในส่วนของการฟ้องร้องนั้นพ่อแม่ของ B ได้เรียกร้องไปเป็นเงิน 360,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 433,263 บาท) แต่เนื่องจากพ่อของ A ทำงานเป็นพนักงานทำความสะอาด จึงได้แสดงความรับผิด และเรียกร้องให้ลดมาจ่ายในส่วนของค่ารักษาพยาบาล 6,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 7,221 บาท)

โดยศาลนั้น ได้พิจารณาคดีความดังกล่าว และได้ตัดสินให้ทางครอบครัว A ต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายอยู่ที่ 26,320 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 31,695 บาท) แบ่งเป็น ค่าชดเชยเหลือ 25,000 ดอลลาร์ไต้หวัน และค่ารักษาพยาบาล 1,320 ดอลลาร์ไต้หวัน เนื่องจากค่าเสียหายที่ทางครอบครัว B เรียกร้องไปนั้น ถือว่ามากเกินไปและไม่สมเหตุสมผล ในส่วนของตัวเด็กนั้น ศาลได้ชี้ว่า A ไม่ใช่เด็กเล็กแล้ว และควรจะสามารถรับรู้ และแยกแยะได้ว่าการกระทำดังกล่าวนั้น เป็นสิ่งที่ผิด จึงต้องรับโทษให้มีการชดเชยดังกล่าว

ตำรวจบุกจับคนร้ายค้ายาบราซิล พร้อมยึดของกลางเป็นกัญชาได้ สุดฮา คนร้ายยอมมอบตัว สุนัขมอบตัว นอนทิ้งตัวตามเจ้านายด้วย เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม เว็บไซต์ แลดไบเบิล รายงานเหตุการณ์สุดประหลาดขึ้นที่เกิดขึ้นในประเทศบราซิล โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้บุกเจ้ากุมพ่อค้ายาชาวบราซิลในนครเซาเปาลู นอกจากคนร้ายจะมอบตัวแล้ว สุนัขมอบตัวด้วย

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในระหว่างทางเจ้าหน้าที่ตำรวจสั่งให้คนร้ายหมอบลงกับพื้นนั้น สุนัขเฝ้าบ้านพันธ์ร็อตไวเลอร์ที่คนร้ายน่าจะซื้อไว้เพื่อป้องกันผู้บุกรุกก็หมอบลงกับพื้นตามเจ้านายด้วย สร้างความเอ็นดูให้กับผู้ชมคลิปเป็นอย่างมาก

เจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่าพวกเขายึดกัญชาได้ขนาด 1.1 ตัน โดยตำรวจเชื่อว่ายาเสพติดจะถูกส่งมาที่นี่ ก่อนจะนำยาเสพติดไปขายรอบๆเมือง

ทั้งนี้ตำรวจยืนยันว่าพวกเขาไม่ได้จับกุมสุนัขที่ทิ้งตัวลงไปในครั้งนี้ และสุนัขตัวนี้จะอยู่กับเจ้าของที่ดิน และนอกจากสุนัขตัวนี้แล้ว ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังระบุว่ายังมีสุนัขอีกสองตัวในพื้นที่ด้วย ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะประสานงานกับมูลนิธิสัตว์ต่อไปว่า จำเป็นต้องคุ้มครองเจ้าตูบสามตัวนี้หรือไม่

อินเดียงง! ถุงยางขาดตลาด ไม่ใช่เอาไปใส่ เอาไป เสพถุงยาง

ประเทศอินเดียถึงกับงงอยู่ดีๆ ถุงยางขาดตลาด ไม่ใช่เพราะวัยรุ่นเอาไปใส่ แต่เอาไป เสพถุงยาง เป็นยาเสพติด เจ้าของร้านเผยขายหมดเกลี้ยงทุกวัน เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม เว็บไซต์ News 18 รายงานว่า ถุงขายใน อำเภอทุรคาปูร์ประเทศอินเดีย ขาดตลาดอย่างหนัก โดยเฉพาะถุงยางที่มีรสชาติ ไม่ใช่เพราะว่าวัยรุ่นเอาไปสวมเยอะ แต่เป็นเพราะเอาไปต้มเสพถุงยาง

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากที่เจ้าของร้านสะดวกซื้อเริ่มสงสัย หลังจากที่มีวัยรุ่นซื้อถุงยางจำนวนมากต่อเนื่อง ซึ่งทางเจ้าของร้านก็ถามตรงๆว่า พ่อหนุ่มคนนี้เอาถุงยางไปทำอะไรเยอะแยะขนาดนั้น ซึ่งวัยรุ่นคนดังกล่าวก็ตอบตรงว่าๆ เขาเอาไปต้มเสพ

เจ้าของร้านเล่าว่าสมัยก่อนถุงยางขายได้ประมาณ 3-4 แพ็คต่อวัน แต่หลังจากที่มีข่าวลือนี้ถุงยางหมดเกลี้ยงร้าน

หลังจากที่เรื่องนี้ได้รับการเผยแพร่ออกไปก็กลายเป็นกระแสฮือฮาและความฉงนว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่คนเราจะพี้ถุงยางได้? โดยนาย ดีมัน แมนเดล แพทย์ที่ประจำอยู่ในอำเภอทุรคาปูร์ให้สัมภาษณ์ว่า ถุงยางนั้นมีส่วนประกอบที่ทำให้กลิ่นหอม ที่หากเอาต้มนานๆจะกลายเป็นแอลกอฮอลล์และยังมีกาวยางเป็นส่วนประกอบด้วย

ทั้งแอลกอฮอลล์สามารถนำไปดื่มเพื่อให้เกิดมึนเมา เช่นเดียวกันกับกาวยางที่สามารถนำไปสูดเพื่อให้เมายาได้เช่นเดียวกัน

อีกอย่างถ้าเธออยากจะให้ชั้นจับพวกนี้เข้าคุก เรื่องอาจจะกลับตาลปัดเป็นเธอเองที่ต้องเข้าไปนอนในคุก ข้อหาทำร้ายร่างกายเด็กก็ได้นะ ถ้าพวกนั้นจะเอาเรื่องเธอคืน (อันนี้รุ้งถูกปลักปลำและขู่ให้กลัวจะได้ยินยอมความ)”

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป